วันอังคารที่ 2 มกราคม พ.ศ. 2561

อลิซในแดนมหัศจรรย์



CR:Gotoknow.2561.อลิซในแดนมหัศจรรย์ (ออนไลน์).
สืบค้นวันที่3/มกราคม/2561
https://www.gotoknow.org › ... › รุ่งทิพย์ กล้าหาญ › สมุด › นิทานพัฒนาคน

อลิซในแดนมหัศจรรย์ (อังกฤษAlice in Wonderland) คือภาพยนตร์ผจญภัยแฟนตาซีในปี ค.ศ. 2010 กำกับโดยทิม เบอร์ตัน เป็นผลงานการประพันธ์บทภาพยนตร์ของลินดา วูลเวอร์ตัน นำแสดงโดย มีอา วาซีโควสกาจอห์นนี เดปป์แอนน์ แฮททาเวย์เฮเลน่า บอนแฮม คาร์เตอร์คริสพิน โกลเวอร์ไมเคิล ชีน และ สตีเฟน ฟราย ซึ่งเป็นส่วนต่อขยายของวรรณกรรมชุด อลิซท่องแดนมหัศจรรย์ และ ธรูเดอะลุกกิงกลาสส์ ซึ่งภาพยนตร์ได้ใช้เทคนิคการตัดต่อผสมระหว่างการแสดงจริงและแอนิเมชันในภาพยนตร์เป็นการดำเนินเรื่องของอลิซในวัย 19 ปีและกลับเข้าไปยังดินแดนใต้พิภพโดยบังเอิญ สถานที่ซึ่งเธอเคยเข้าไปแล้วเมื่อ 13 ปีที่แล้ว เธอกล่าวว่าเธอเป็นเพียงผู้เดียวที่สามารถสยบแจ็บเบอร์ว็อกกี มังกรร้ายที่ควบคุมโดยเรดควีน ทิม เบอร์ตันกล่าวว่าแต่ดั้งเดิมนั้นเรื่องราว ดินแดนมหัศจรรย์ นั้นเกี่ยวกับเด็กหญิงที่เร่ร่อนจากตัวละครหนึ่งสู่ตัวละครหนึ่ง และเขาไม่รู้สึกถึงความต่อเนื่องของอารมณ์เขาเลยต้องการสร้างความรู้สึกเป็นเรื่องราวมากกว่าเป็นลำดับเหตุการณ์ เขาไม่ได้มองว่าภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นการนำมาสร้างใหม่ อลิซในแดนมหัศจรรย์ ปฐมทัศน์ ณ จัตุรัส Odeon Leicester กรุงลอนดอน ในวันที่ 25 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2010 และออกฉายในออสเตรเลียในวันที่ 4 มีนาคม ค.ศ. 2010 ในสหรัฐอเมริกาและสหราชอาณาจักรในวันที่ 5 มีนาคม ค.ศ. 2010 โดยวอลต์ดิสนีย์พิกเจอร์สผ่านระบบ 3 มิติและไอแม็กส์ 3 มิติ และในรูปแบบโรงภาพยนตร์ทั่วไป 

เด็กหญิงอลิซรู้สึกเบื่อหน่ายกับการนั่งเล่นริมน้ำกับพี่สาวเธอเฝ้าดูพี่สาวอ่านหนังสือที่เต็มไปด้วยตัวอักษร ด้วยคำถามในใจว่า  อ่านหนังสือที่ไม่มีรูปภาพจะสนุกได้อย่างไร และเธอก็เผลอหลับโดยฝันเห็นกระต่ายขาวสวมเสื้อกั๊ก  มีนาฬิกาพกวิ่งผ่านเธอ  เธอจึงวิ่งตามและลงไปในโพรงกระต่าย   ที่นี้เธอพบกับสิ่งมหัศจรรย์มากมาย อาทิ  น้ำวิเศษที่ดื่มแล้วตัวสูงหรือเตี้ยได้  เค้กวิเศษกินแล้วร่างกายใหญ่โตหรือหดเล็ก  แม้กระทั่งเธอเอง  ร่างกายการหดเล็กจนแทบจมแอ่งน้ำตาของตนเอง  หรือเห็ดพิเศษที่ทำให้คอยืดยาว อลิซได้พบการแข่งขันวิ่งวุ่นของฝูงนำที่มีนกโดโด้เป็นผู้จัดการแข่งขัน ได้พบหนอนยักษ์สีน้ำเงินที่ชอบสูบควันและอาศัยบนดอกเห็ด  ซึ่งมีท่าทีเป็นผู้รอบรู้ในเรื่องต่าง ๆ   ได้เจอองครักษ์กบองค์รักษ์ปลา  และแมวเซสเซียร์ที่ยิ้มได้หรือการร่วมดื่มน้ำชาวิกลจริตกับสามสหายได้แก่  เจ้าหนูดอร์เมาส์   กระต่ายมีนา และช่างทำหมวก  หรือการได้เห็นสนามโครเกต์ของพระราชาและพระราชินีโพแดง  ซึ่งเต็มไปไปด้วยทหารไพ่  ทีต้องพยายามเอาใจพระราชินีเพื่อใม่ป้องกันถูกสั่งตัดหัว   สนามโครเกต์ของพระราชินีมีเม่นเป็นลูกบอล  มีนกฟลามิงโก้เป็นไม้ตีเธอได้เจอเจ้ากริฟฟอนสัตว์เลี้ยงของพระราชินี  ได้รับฟังโรงเรียนของเต่า จากเต่าประหลาดซึ่งมีลักษณะพิเศษกว่าโรงเรียนที่อลิสเคยเจอได้เห็นการเต้นระบำกุ้งล็อบเตอร์ และการที่อลิสได้มีส่วนร่วมในการพิจารณาคดีใครขโมยทาร์ตไป   ในที่สุดอลิซก็ตื่นจากฝัน  และบอกเล่าความฝันที่แสนมหัศจรรย์ให้พี่สาวฟันต่อมา อลิซในแดนมหัศจรรย์   ได้ถูกสร้างเป็นภาพยนตร์แฟนตาซีและนำออกฉายในปี 2553 ซึ่งเป็นเรื่องราวของอลิส คิงเลอร์ สาวน้อยวัย 19 ที่กำลังคิดถึงอนาคตของเธอ การเป็นคนคิดต่างคนอื่นทำให้เธอโดดเดี่ยวเมื่อตกอยู่ภายใต้สายตาของเหล่าหญิงสาวผู้สูงศักดิ์ที่มีจิตใจคับแคบแห่งกรุงลอนดอนในยุควิคตอเรีย  อลิซ คิงส์ลีย์ รู้สึกสับสนวิธีการที่จะสร้างสมดุลระหว่างความฝันของเธอกับความคาดหวังของคนรอบข้างหลังจากการสูญเสียบิดาผู้เป็นที่รัก เธอไปร่วมงานปาร์ตี้ในสวน กับแม่และพี่สาวโดยที่เธอไม่รู้เลยว่ามันถูกวางแผนให้เป็นปาร์ตี้งานหมั้นของเธอ และในขณะที่ ฮามิชแอสคอตผู้เย่อหยิ่งกำลังขอเธอแต่งงาน  อลิซได้เหลือบไปเห็นกระต่ายสีขาวใส่เสื้อโค๊ตตัวสั้นกับนาฬิกาพกวิ่งข้ามสนามไป  เธอจึงวิ่งตามเจ้าขนปุยตัวขาวลงไปในโพรงกระต่ายสู่ดินแดน อันเดอร์แลนด์ ที่เธอเคยมาเยือนเมื่อครั้งยังเด็กแต่ความทรงจำเกี่ยวกับดินแดนและผู้ที่อาศัยอยู่ในดินแดนนี้ของเธอได้เลือนหายไปนานแล้วอย่างไรก็ตามเธอได้กลับมาพบกับเพื่อนวัยเด็กของเธอ ไม่ว่าจะเป็นกระต่ายขาวไวท์แรบบิทซึ่งทำหน้าที่ตามหาและนำพาอลิซมายังอันเอดร์แลนด์   แฝดยักษ์อ้วนจอมป่วน ทวีเดิลดี กับ ทวีเดิลดัม   เดอร์เม้าส์ หนูตัวจิ๋ว  การที่อลิซจำอันเดอร์แลนด์ไม่ได้  ทำให้ทั้งหมดคิดว่า เธอไม่ใช่อลิซตัวจริง   จึงพาเธอไปหาหนอนผีเสื้อแอ๊บโซเลมแอ๊บโซเลม เป็นหนอนผีเสื้อสีน้ำเงินอาศัยบนเดอกเห็ดในป่าเห็ดที่ปกคลุมด้วยหมอกควันเป็นผู้รอบรู้และผู้พิทักษ์ "ออราคูลัม"  เอกสารเก่าแก่ที่บันทึกทุกเหตุการณ์สำคัญทั้งในอดีต ปัจจุบัน และอนาคตในประวัติศาสตร์ของอันเดอร์แลนด์    กระต่ายขาวและทวีเดิลทั้งสองได้พาอลิซมาพบกับแอ๊บโซเลเพื่อที่จะให้ดูว่าเป็นอลิซตัวจริงเสียงจริงที่เคยมาเยือนดินแดนแห่งนี้เมื่อครั้งยังเด็กแอ๊บโซเลมบอกว่า  อลิซถูกชะตากำหนดให้มาช่วยอันเดอร์แลนด์   แต่อลิซก็ปฏิเสธขณะนั้นเองทหารของราชินีแดงก็ปรากฏตัวขึ้น  จับกระต่ายขาวและแฝดยักษ์  ในขณะที่อลิซและเดอร์เม้าส์สามารถหนีไปได้  ระหว่างทางอลิซได้พบกับเวสเชียร์ แมววิเศษที่พาเธอไปพบกับแมดแฮทเทอร์ ช่างทำหมวกผู้ภักดีกับราชินีขาวและกระต่ายมีนา  ซึ่งทั้งสองหลุดรอดจากการจับกุมของราชินีแดงแมดแฮทเทอร์เชื่อว่า  อลิสคือตัวจริงที่เคยมาเยือนวันเดอร์แลนด์ในวัยเด็ก   จึงเล่าว่า ราชินีแดงได้แย่งชิงบังลังค์จากราชินีขาว และปกครองทุกคนด้วยความกลัว ดังนั้นจะต้องกอบกู้บัลลังค์และช่วยวันเดอร์แลนด์ให้เป็นอิสระ   โดยอลิซจะเป็นอัศวินในวันศึกมหัศจรรย์   อลิซไม่เชื่อว่า  จะเป็นตนเอง แมดแฮทเทอร์จึงถามว่า  ความเป็นอลิสในวัยเด็กหายไปไหน   ขณะนั้นราชินีแดงทราบข่าวว่า  อลิสมาถึงอันเดอร์แลนด์จึงส่งทหารมาจับ   แต่แมดแฮทเทอร์ก็ช่วยเหลือพาอลิสหนี  จนกระทั่งตนเองถูกจับ อลิซจึงตัดสินใจช่วยเหลือแมดแฮทเทอร์  โดยการปลอมตัวเข้าไปอยู่ในวังราชินีแดงในนามอัม   ราชินีแดงที่อลิสพบคือ   คนที่มีหัวที่โตผิดขนาดและอารมณ์อันฉุนเฉียว ชอบสั่งให้ตัวหัวคนเป็นว่าเล่น ทำให้เหยื่อของเธอต่างหวั่นกลัวเธอเป็นอย่างมาก  ราชินีแดงเป็นพี่สาวของราชินีขาว...ต่อมาเมื่อเจอแมดแฮทเทอร์จึงวางแผนค้นหาดาบศักดิ์สิทธิ์ของราชินีขาวเพื่อปราบสัตว์ร้ายที่ราชินีแดงใช้ข่มขู่คนให้หวาดกลัว ต่อมาอลิสค้นหาดาบเจอพร้อมกับราชินีแดงทราบว่า  เธอคืออลิส  จึงสั่งทหารจับตัวแต่แมดแฮทเทอร์ก็ขัดขวาง  บอกให้เธอรีบหนีไปหาราชินีขาวราชินีแดงโกรธมากสั่งประหารชีวิตแมดแฮทเทอร์   โชคดีที่แมววิเศษเซสเชียร์มาช่วยไว้   แมดแฮทเทอร์ จึงประกาศเชิญชวนให้ทุกคนต่อต้านราชินีแดง  ปรากฏว่า มีคนออกมาร่วมต่อต้านราชินีแดงโกรธมาก  จึงสั่งทหารจับและประกาศสงครามกับราชินีขาว   เมื่ออลิสพบราชินีขาวผู้อ่อนหวาน  เธอมอบดาบให้ราชินีขาว  แต่ราชินีขาวกลับให้ดาบนั้นแก่เธอพร้อมทั้งบอกว่าเธอจะเป็นผู้ใช้มันปราบเจ้ากริฟฟอนสัตว์ร้ายของราชินีแดงในวันศึกมหัศจรรย์   แต่อลิสก็ปฏิเสธเพราะเธอคิดว่า  คนปราบสัตว์ร้ายไม่ใช่เธอ   เมื่อกองทัพราชินีแดงมาประชันถึงเมืองทุกคนรอคำตอบจากอลิส  เธอได้ปรึกษากับแอบโซเล็ม  และแอ๊บโซเลมได้ท้าทายอลิซให้เข้าร่วมการต่อสู้เพื่อที่จะได้เข้าใจตัวเอง และเพื่อตอบคำถามว่า "เธอคือใคร?"ในที่สุดอลิสก็ตัดสินใจสู้กับสัตว์ร้ายและสามารถเอาชนะได้ที่สุด  ราชินีขาวขึ้นปกครองอันเดอร์แลนด์  ราชินีแดงพร้อมทหารคู่ใจถูกเนรเทศ  อลิสจึงกลับจากอันเดอร์แลนด์โดยสัญญากับเพื่อนๆ ว่าจะไม่ลืมอันเดอร์แลนด์ ราชินีขาวจึงส่งอลิสกลับสู่ข้างบนในโลกความจริงเมื่ออลิสออกจากโพรงไม้  สู่โลกความจริง ซึ่งฮามิช แอสคอต   กำลังรอคำตอบการตกลงแต่งงานจากเธออยู่อลิสตอบปฏิเสธการแต่งงานและบอกกลับแม่และพี่สาวว่า  เธอจะยังไม่แต่งงาน  แต่จะหางานทำ เพื่อดูแลตนเอง    พ่อของฮามิช แอสคอต  จึงบอกว่า เมื่อเธอไม่อยากเป็นลูกสะใภ้ก็สามารถมาทำงานด้วย อลิสดีใจมากตอบตกลงทำงานพร้อมทั้งเสนอแผนการค้ากับต่างประเทศและตัดสินใจเดินทางไปค้าขายต่างประเทศภาพยนตร์เรื่องอลิสในดินแดนมหัศจรรย์  มิใช่เพียงความตื่นตาในจินตนาการเท่านั้น  หากแต่เป็นความฝันและความกล้าของเด็กสาวคนหนึ่งในการตัดสินใจและเผชิญปัญหา  การที่ อลิซลังเลที่จะตัดสินใจในการแต่งงานทั้งที่เธอไม่อยากแต่ง  แต่ก็หาทางออกไม่ได้เพราะสภาพสังคมที่เชื่อว่า  ชายเป็นผู้มีอำนาจ  หากได้แต่งงานกับชายที่ดีมีความพร้อมก็เสมือนกับมีฉัตรแก้วเจ็ดชั้นกั้นภัย   หากไม่ได้แต่งงานก็จะขึ้นคานให้คนดูแคลน ต่อมาเมื่อเธอกลับเข้ามาอยู่ในอันเดอร์แลนด์จึงเข้าใจว่า  ปัญหาทุกอย่างสามารถแก้ไขได้ด้วยตนเอง เพื่อเชื่อมั่นในพลังอำนาจแห่งตน   อนึ่งหนังเรื่องนี้  ยังบอกว่า  คนเราย่อมมีคุณสมบัติความเป็นเด็กและความเป็นผู้ใหญ่ในตัว และทุกคนล้วนมีความฝัน   หากแต่จะจัดการกับความฝันและความจริงอย่างไร   การที่อลิสลงไปในโพรงในหลุมเพื่อสู่อันเดอร์แลนด์  เปรียบได้ดั่งการที่อลิสเกิดการสำรวจจิตไร้สำนึก หรือเบื้องลึกของจิตใจที่ไม่สามารถรับรู้ได้ในยามปกติ
   การที่เธอหลบหนีจากโลกของจิตสำนึกหรือโลกความจริง  เพื่อเข้ามาพักชั่วคราวในโลกแห่งความฝันความหวังเพื่อหาคำตอบที่เหมาะสมที่สุดเพื่อแก้ปัญหาที่เธอกำลังเผชิญ   โดยเธอต้องตอบคำถามว่า "เธอคืออลิซคนนั้นหรือเปล่า" หรือ
"เธอคือคนเดียวกับหนูน้อยอลิซที่เคยมาเยือนแดนมหัศจรรย์เมื่อ 13 ปีที่แล้วรึเปล่า" อาจตีความได้ว่า ชาวอันเดอร์แลนด์กำลังตั้งคำถามให้เธอหันกลับมาพิจารณาตัวเองว่า"เธอกำลังทำในสิ่งที่เธอต้องการจริงๆ หรือเปล่า"
       ย้อนมองเราเองในวันนี้ วันที่เราเติบโตจากวัยเด็กที่เต็มด้วยจินตนาการ สู่โลกของผู้ใหญ่ที่เต็มด้วยภาระรับผิดชอบและความคาดหวังตามบทบาทที่ดำรงอยู่    ในโลกความจริงที่เราใช้ชีวิตประจำวัน อาจทำให้ความฝันเราหล่นหายมากน้อยต่างกันไป  บางทีเราอาจต้องกลับสู่โพรงกระต่ายเพื่อสู่อันเดอร์แลนด์เพื่อหาคำตอบว่า  ชีวิตคืออะไร  

    ไม่มีความคิดเห็น:

    แสดงความคิดเห็น